October 03, 2011

เราเลือกชีวิต

มีคู่แฝดอยู่ 2 คน เกิดพร้อมกัน พ่อแม่มีฐานะปานกลาง พอส่งเสียได้....

คนหนึ่งเลือกจะพยายามสอบหมอให้ได้ ขยันเรียนตลอด 3 ปี ใน ม.ปลาย จนกระทั่งทำเป็นนิสัยและความเคยชิน เรียนพิเศษทุกวัน อดทนอ่านหนังสือวันละ 12-14 ชม. ก่อนสอบ เพื่อมาเป็นนักศึกษาแพทย์ ผลสอบออกมาได้คะแนนเอ็นเจ็ดวิชา 79% ติดแพทย์จุฬาแบบเฉียดฉิว เพราะคนสุดท้ายได้ 76%

ตอนเรียน...
ปี1-3 มีปิดเทอมทั้งปี.....มีเดือนนึง เพราะมีวิชาแล็บเยอะ
ปี4-6 ทั้งปี.....ไม่มีปิดเทอม เพราะต้องอยู่เวร


คนที่สองก็อ่านบ้าง เล่นเกมบ้าง อาศัยเรียนพิเศษบ้าง โดดบ้าง อาศัยอ่านวันละ 4-6 ชั่วโมงก่อนสอบ ผลสอบออกมาได้คะแนนเอ็นห้าวิชา 65% ติดวิศวะจุฬาแบบเฉียดฉิว เพราะคนสุดท้ายได้ 63%

ตอนเรียน...
ปี1-3 มีปิดเทอมและวันว่างรวมเกือบครึ่งปี โดดบ้าง เพราะบางวิชาไม่เช็คชื่อ
ปี 4 มีเรียนแค่สัปดาละ 3 วัน เพราะต้องทำโปรเจคบ้าง หางานบ้าง


......ผ่านไป 10 ปี
คุณ หมอเด็กคนหนึ่งอายุ 30 เศษๆ ในโรงบาลเอกชน หลังรับกระเช้าปีใหม่จากพ่อแม่เด็กคนที่ 270 ที่ทำคลอดให้ และคำชื่นชมว่าขอบคุณ กลับบ้านไปพักผ่อนที่บ้านตัวเองอย่างสบายใจ รับเงินเดือนรวมทุกอย่างแล้วสองแสนห้า ทักษะที่ถนัดคือตรวจโรค จ่ายยา ทำคลอด ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ กำลังจะซื้อคอนโดในเมือง พ่อแม่ชอบโทรมาปรึกษาเรื่องสุขภาพบ่อยๆ และแม่สามารถคุยกับคนอื่นอย่างเต็มปาก ได้ว่าลูกประสบความสำเร็จ และหมดห่วง


ขณะเดียวกันผู้จัดการคนหนึ่งในสายงานวิศวะในบริษัทต่างชาติ กำลังจ้องจอคอมวันละ 8-12 ชม. เงินเดือนรวมโอทีทุกอย่างแล้ว 6 หมื่น ถูกเจ้านายต่างชาติกดดันเรื่องวันส่งโปรเจค ทักษะที่ถนัดคืองานเอกสาร หลังกลับถึงบ้านของพ่อ แม่ชอบถามทุกวันว่าทำงานเหนื่อยไหม พักบ้างก็ได้ พอมีเวลาว่างต้องฝึกภาษา เพื่อมีโอกาศก้าวหน้า และต้องเปลี่ยนงานเพื่อเพิ่มเงินเดือน


จากเรื่องจริงที่ผมนำมาเล่าใน อยู่ที่เราเลือกชีวิต อย่าปล่อยให้ชีวิตเลือกเรา เราพยายามแค่ไหน เราย่อมทราบดี รักสนุกวันนี้ อนาคต ความลำบากรออยู่ และสุดท้ายแล้ว พ่อแม่ท่านรู้อยู่แล้วว่าลูกประสบความสำเร็จหรือเปล่า

Credit : Unigang